20 หนทาง สู่ความสุขได้ทุกวัน
วันนี้สาระมีอยู่จริงมานำเสนอ 20 วิธีที่จะพบกับความสุขง่ายๆ พูดถึงความสุขแล้ว มีใครไหมที่ไม่อยากจะมี ตอบแทนให้เลยว่าไม่มี เพราะสิ่งที่ทุกคนทำอยู่ทุกวันนี้ก็มีจุดหมายปลายทางคือความสุข ที่เราตั้งใจเรียนทุกวัน ก็เพื่อที่จะได่มีงานดีๆทำมีเงินใช้สบายซึ่งทำให้มีความสุข ในทางกลับกันไม่มีใครที่จะขยันเรียนเพื่อไปลำบากเป็นขอทาน อดมื้อกินมื้อ แต่สาระมีอยู่จริงจะมาแนะนำวิธีหาความสุขง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย มาชมกัน1. ระเบิดหัวเราะดัง ๆ (วะ ฮะ ฮา ฮ่า)
การหัวเราะบ่งบอกถึงความสุข ช่วยลดความเครียด และเพิ่มระดับฮอร์โมนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ได้ให้ผู้เข้าร่วมทดลองชาย 8 คน จาก 16 คน ดูวีดิโอที่ผู้คนได้ลงความเห็นว่ามีเนื้อหาที่สนุกสนาน ผลปรากฏว่าขณะได้ชมวีดิโอ ชายกลุ่มนี้มีระดับฮอร์โมนความเครียดลดต่ำลง ในขณะที่สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถูกหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกสนุกสนานหรือตื่นตัว ออกมามากขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีปริมาณโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ชี้บ่งถึงสุขภาพและภูมิต้านทาน สูงขึ้นถึง 87 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดูวีดิโอสนุกสนานเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า การหัวเราะและความรู้สึกสนุกสนานทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ แต่ถ้าหัวเราะผิดที่ผิดทาง และผิดเวลาก็ไม่ได้ช่วยให้มีความสุขหรอกนะ เช่นถ้าอยู่ดีๆก็หัวเราะในขณะที่ครูด่าอยู่หน้าเสาธงตอนเช้า นอกจากเพื่อนจะมองว่าบ้าแล้ว ยังอาจโดนครูใช้ให้ไปล้วงคอห่านห้องน้ำโรงเรียนเป็นได้
2. นอนหลับอย่างเพียงพอ
ข้อนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคน แต่อย่างว่าถ้าจะนอนก็ต้องนอนในสถานที่ที่สมควรนั้นก็คือ ห้องเรียน เอ๊ย ห้องสมุด เอ๊ย สนามฟุตบอล เอ๊ย ห้องนอน ไม่รู้เป็นอะไรกันว่ากลางคืนไม่อยากนอน กลางวันไม่อยากตื่น นี่คือเสียงบ่นของพ่อแม่หลายๆคน ตอบแทนให้เลยครับว่า รายงานเยอะ การบ้านเยอะ (จริงป่าว?ฮา) ทำให้หลายคนจำเป็นต้องนอนดึกด้วยเหตุผลนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะในเมื่อจะนอนเร็วแล้วมันนอนยังไงก็ไม่หลับ สาระมีอยู่จริงแนะนำให้ว่าควรที่จะหยิบหนังสือเรียนาอ่านสักเล่ม พอง่วงก็หรี่ไฟ เปิดเพลงคันหู ฉบับสโลวโมชั่นกล่อม (คาน หู ม่าย รู้ เปนนน อา ร๊ายยยย) รับรองว่าตอนเช้าตื่นมาไม่งัวเงียแน่นอน
3. ฟังเพลง
มีผลการศึกษาพบว่า เสียงดนตรีช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และยังกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกมีความสุขหรือพึงพอใจ ซึ่งสามารถถูกกระตุ้นด้วยอาหารและการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกัน จากการทดลองเปิดเพลงคลอไปขณะทำการผ่าตัดตาให้กับผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง พบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งสรุปได้ว่า เสียงเพลงช่วยผ่อนคลายและทำให้หัวใจไม่ต้องทำงานหนักนั่นเอง แต่การฟังเพลงก็ควรฟังในระดับเสียงที่พอเหมาะ ไม่ใช่ไปจัดลำโพงงานวัดใหญ่มาเปิดฟัง และเพลงที่ฟังก็ควรจะเป็นเพลงที่เราชอบ หรือที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เช่น คาน หู ม่าย รู้ เปนนน อา ร๊ายยยย (<= ไม่จบสักทีนะเพลงนี้ ><)
4. ทำสวน
ก็ทำสวนอ่ะ งง อะไร ? |
5. กลิ่นอโรมาเธอราพี
ผลการวิจัยพบว่า กลิ่นอโรมาเธอราพีต่าง ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้จริง โดยกลิ่นโรสแมรี่ ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว ผ่อนคลายความวิตกกังวล ช่วยให้การคิดคำนวณเร็วขึ้น ในขณะที่กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยกระตุ้นให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งปัจจุบันนี้เราสามารถปรุงแต่งให้ห้องอบอวลด้วยกลิ่นหอม ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งจากน้ำมันหอม เทียนหอม สเปรย์ปรับอากาศ ฯลฯ ข้อนี้ละชอบจริงๆ ดมแล้วรู้สึกมีวความสุขจริงๆ นะ แต่บางอันถ้าดมมากไปก็อาจทำให้ตาเหร่ และสมองซีกซ้ายตายได้
6. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
มีผลการวิจัยมากมายที่กล่าวว่า การใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดความเครียดได้ดี โดยมีการศึกษากับคู่รัก 240 คู่ โดยครึ่งหนึ่งเป็นคู่รักที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง พบว่ากลุ่มที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีระดับการเต้นของหัวใจ และความดัน ต่ำกว่ากลุ่มคู่รักที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ยังพบอีกว่า ในบางครั้งสัตว์เลี้ยงยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดีกว่าคู่รักด้วยซ้ำ แสดงว่าบ้านผมก็มีความสุขกันสิ เห็นเล่นเกมตบยุง เกมวิ่งหนีแมลงสาบ กันอยู่
ใครจะกล้าเล่นกับมันวะเนี่ย |
การลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ จะทำให้คุณลำดับความสำคัญและจัดการภารกิจต่าง ๆ ไปได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณมองเห็นภาพคร่าว ๆ ของสิ่งที่กำลังจะเกิด และวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น ก็เรียกง่ายๆว่าจัดตารางอ่ะนะ สำหรับคนไม่มีอะไรทำก็ลิสต์ไปว่า หายใจละกัน ^^
8. จัดการความยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย
การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใด หรือการรีแลกซ์ผ่อนคลาย คงเป็นไปได้ยาก หากโต๊ะที่ทำงานหรือที่บ้านของคุณรกระเกะระกะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่วางสุมเอาไว้ บิลค่าใช้จ่ายหรือเอกสารต่าง ๆ ที่กระจายเต็มโต๊ะ จัดการทำความสะอาดเสียให้เรียบร้อย ด้วยการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คุณมีสมาธิในขณะที่ลงมือทำ ทั้งการเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ยังทำให้มีสมาธิกับงานที่จะทำชิ้นต่อไปมากขึ้นด้วย เยี่ยม แล้วก็รกเหมือนเดิมในไม่กี่เพลาถัดมา
9. รู้จักปล่อยวาง
ถ้างานที่คุณทำอยู่มีมากจนล้นมือ ทำให้คุณหัวปั่นและหาเวลาว่างไม่ได้ และรู้สึกเหน็ดเหนื่อยนักก็ปล่อยวางลงเสีย พักงานบางอย่าง หรือกระจายความรับผิดชอบให้คนอื่น เหลือเวลาว่างให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง อย่างงานกลุ่มอย่างนี้ก็ปล่อบวางมั้ง ไม่ใช้ทำคนเดียวหมด (ล้อเล่น><)
10. หยุดการรับข่าวสาร
เมื่อถึงวันพักผ่อนของคุณ หยุดการรับข่าวสารไม่ว่าจากทางใดทั้งสิ้น ทั้งจากการดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์ หรือเข้าไปดูข่าวต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ลองหยุดดูสักครั้ง เพื่อไม่ต้องรับรู้ความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัว ใช้วันหยุดของคุณในการพักผ่อนอยางเต็มที่ ทั้งกายและความคิด คงจะเป็นการยากมากสำหรับผมเนื่องจากแม่เปิดแต่ข่าว ไม่รู้ติดทำไมไอ้ทรูวิสชั่นเนี่ย จะดูหนังก็ว่าไม่ตามข่าวสารบ้านเมือง ><
11. หยุดความเครียดจากการติดตามหุ้น
หากใครเป็นนักลงทุน คงรู้ดีว่าการเล่นหุ้นนั้นมีความเสี่ยง และตลาดหุ้นก็ผันผวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่ลงทุนในตลาดหุ้นใจหายใจคว่ำกันได้ง่าย ๆ แต่การลงทุนใด ๆ นั้นย่อมต้องใช้ระยะเวลา โอกาสได้กำไรมามีมากพอ ๆ กับการขาดทุน หากไม่ต้องการเครียดหนักจากความผันผวนในตลาดหุ้น เลิกนิสัยที่ต้องเข้าไปเช็คความเป็นไปในตลาดหุ้นบ่อย ๆ ปล่อยให้การซื้อขายทำหน้าที่ของมันไป ส่วนคุณเอนหลังนั่งพัก โดยไม่ต้องเอาตัวเข้าไปผูกติดดีกว่า
12. ไปสถานที่เงียบสงบ
สถานที่เช่นโบสถ์ วัด พิพิธภัณฑ์ หรือห้องสมุด เป็นสถานที่ที่ดีในการหลบหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก เมื่อไหร่ที่รู้สึกวุ่นวายใจ หรือต้องการความเงียบสงบ ก็ลองไปสถานที่เหล่านี้ดูแนะนำว่า ป่าช้าก็ดี เย็นด้วย
13. ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
แม้การใช้เวลาอยู่กับเพื่อนรู้ใจจะช่วยบรรเทาความรู้สึกกังวล หรือความไม่สบายใจต่าง ๆ ได้ดี แต่บางคราวคุณก็ต้องการเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองบ้าง หากครั้งไหนที่รู้สึกวิตกกังวลและอยากเป็นอิสระ ลองออกไปทานข้าว ดูหนัง หรือใช้เวลาที่ร้านหนังสือคนเดียวดู คุณจะได้พบกับความสงบในอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิต ข้อนี่สำหรับคนมีแฟนนี่ถือเป็นความสุขสุดยอดเลย ฮาๆ บางทีคนเราใกล้กันมากไปมันก็อ่ะนะ
14. ทำงานอาสาสมัคร
ยามที่คุณมีปัญหา จงคิดว่ามีคนอีกมากมายที่อยู่ในสภาพที่ลำบากและย่ำแย่กว่าคุณ ลองเป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น โดยการทำงานเป็นอาสาสมัคร ซึ่งนอกจากจะได้ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นแล้ว ยังทำให้ตัวเองรู้สึกดีอีกด้วย จากการศึกษาพบว่า การทำงานอาสาสมัครช่วยเพิ่มความรู้สึกมีความสุข ความพอใจในชีวิต ความมั่นใจในตนเอง ความรู้สึกว่าสามารถจัดการชีวิตตนเองได้ และลดความรู้สึกหดหู่หรือดูถูกตัวเองได้ด้วย มันเป็นความสุขทางใจที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง ฉันไม่รู้เธอได้ยินฉ้านมั๊ย (<=ไปเรื่อย --)
15. จิตใจอันมีที่ยึดเหนี่ยว
ความสุขหนึ่งสามารถเกิดได้จากใจซึ่งมีที่ยึดเหนี่ยว ในงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้น ชี้ผลตรงกันว่า ผู้ที่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ จะรู้สึกมีความสุขกว่า รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีกว่าผู้ที่มีชีวิตอยู่โดยไม่มีหลักยึดเหนี่ยวใด ๆ โดยศาสตราจารย์เดวิด ไมเออร์ส จากแผนกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโฮป รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ได้รายงานจากการวิจัยว่า ความศรัทธาที่ผู้คนมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวพร้อมทั้งนำทางให้บุคคลผู้นั้นก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ ไปได้ โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นศาสนา ขอเพียงแต่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็พอ
16. มีสติอยู่กับตัว
ในขณะหนึ่งที่คุณกำลังทำสิ่งใดอยู่ จงมีสติและจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น อย่างเวลากินอาหารเย็นกับครอบครัว ก็อย่าได้ให้สมองแว่บไปคิดถึงเรื่องงาน หรือกังวลถึงเรื่องที่ต้องสะสางในวันรุ่งขึ้น ส่วนเวลาทำงานก็ตั้งใจจดจ่อ อย่าได้เหม่อลอย เมื่อเรามีสมาธิและจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใด เรามักทำสิ่งนั้นได้ดี และผลที่ได้ก็จะทำให้เรามีความสุข
17. ไม่ทำหลาย ๆ สิ่งในเวลาเดียวกัน
คนเราเมื่อทำหลาย ๆ สิ่งพร้อมกันแล้ว มักทำได้ไม่ค่อยดี อาจพลาดพลั้งทำอะไรผิดพลาดลงไปได้ง่าย ๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งไหนดี เช่น หากคุณมักโทรศัพท์ไปรีดผ้าไป วางมือจากงานบ้านนั้นเสียก่อน แล้วนั่งลงคุยโทรศัพท์ดี ๆ ให้ความสนใจกับบทสนทนานั้นว่าคู่สนทนากำลังกล่าวถึงสิ่งใด ส่วนคนทำงานที่มักเขียนรายงานไปพร้อม ๆ กับเช็คอีเมล หรือท่องไปตามหน้าเว็บเพจต่าง ๆ หยุดมือจากการคลิกเมาส์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตสักพัก แล้วหันมาจดจ่อทำงานของคุณให้เสร็จก่อน นอกจากงานจะเสร็จไวขึ้นแล้ว ยังถูกต้องแม่นยำมากขึ้นด้วย แต่ก็อยากอ่ะนะสำหรับคนดีงอย่างเราที่ แจ้งเตือน facebook วันละร้อยกว่า
18. เดินจงกรม
การได้สงบจิตใจและสงบสติของตัวเองด้วยการเพ่งสมาธิไปที่แต่ละก้าวย่างเช่นการเดินจงกรม ย่อมดีกว่าการกินยาระงับประสาท ที่แม้จะให้ผลเหมือนกัน แต่ส่งผลต่อจิตใจแตกต่างกันอย่างลิบลับ ยาระงับประสาทช่วยหยุดอาการฟุ้งซ่าน แต่การเดินจงกรมนอกจากจะทำให้จิตใจสงบลงไม่ฟุ้งซ่านแล้ว ยังทำให้จิตใจแข็งแรง และมีวิจารณญาณ มีสติกำกับการกระทำมากขึ้นด้วย มันเป็นวิธีช่วยให้เราก้าวขั้นไปสู่วิธีที่ 2 การนอนหลับอย่างเพียงพอ
19. อธิษฐาน
การอธิษฐานขอพรก็ช่วยให้เรามีความสุขขึ้นได้ แม้จะไม่มีสิ่งใดเป็นหลักรับประกันได้ว่า สิ่งที่เราได้วอนขอไปนั้นจะสัมฤทธิ์ผลจริงหรือไม่ แต่การรู้สึกว่ามีใครบางคนหรือเบื้องบนที่เราไม่อาจรู้ รับฟังคำอธิษฐานของเราอยู่ ก็จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจมากขึ้นได้
20. ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ
จากการสำรวจผู้คน 1,300 คน ทั้งชายและหญิงในช่วงอายุต่าง ๆ กัน มีข้อชี้บ่งว่า ผู้ที่มีมิตรสหายมาก จะระดับมีความดันเลือด ระดับน้ำตาล ระดับคอเรสเตอรอล และระดับฮอร์โมนคอติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด ต่ำกว่าผู้ที่มีเพื่อนน้อยเพียง 1-2 คน และยังพบข้อชี้บ่งเช่นเดียวกันนี้ ในผู้ที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมใกล้ชิดกับญาติ คนในครอบครัว และคนรัก นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้คนที่รู้สึกโดดเดี่ยว หดหู่ มีโอกาสที่จะป่วย และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มากกว่ากลุ่มที่มีมิตรสหายรายล้อม 3-5 เท่าเลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วแทบอยากจะโทรชวนเพื่อนออกมาเจอกันทันทีเลยเชียว
เป็นอย่างไรบ้างครับ 20 วิธีที่แนะนำให้ ทางสาระมีอยู่จริงได้แนะนำวิธีพิเศษสำหรับ ท่านชายทั้งหลายนั่นก็คือ ก็คือ ก็คือ ชูววู่ (ไม่เข้าใจเราขยายความให้นั้นก็คือ fap ครับ แต่ถ้าใครไม่เข้าใจอีกก็ อย่าพยายามทำความเข้าใจเลยครับ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา) ยังมีอีกหลายล้านวิธีที่เราจะมีความสุขได้ง่ายๆ
วันนี้ทางวาระมีอยู่จริงก็ลาไปก่อน วะ ฮาๆ โฮะๆ ฮู้ๆ ค๊อกๆ แค๊กๆ โอ๊ย คอกู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น